ดนตรีสร้างอัจฉริยะ

ในอดีตเราอาจมีค่านิยมเกี่ยวกับดนตรีว่า เป็นศาสตร์ของคนที่เรียนหนังสือสู้คนอื่นไม่ได้ ไม่มีหัวด้านวิชาการ แต่ในวันนี้ ดนตรีถูกมองในมุมใหม่ได้รับการยกระดับเป็นวิชาของนักปราชญ์ มีการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ถึงคุณประโยชน์ของดนตรีในแง่มุมทางวิทยาศาสตร์กันมากมาย ตลอดจนการตีพิมพ์หนังสือที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ของดนตรีกับฟิสิกส์ เห็นได้ว่า นักวิทยาศาสตร์และคนรุ่นใหม่เชื่อว่า ดนตรีนั้นสร้างอัจฉริยะได้จริง ความฉลาดปราดเปรื่องของไอน์สไตน์ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ นักวิทยาศาสตร์อยากทราบว่า อะไรคือสาเหตุของความฉลาดของเขา เท่าที่ทราบกันก็คือ เส้นใยประสาทในสมองของไอน์สไตน์แตกแขนงออกไปอย่างหนาแน่นและสื่อสารกันได้ดีมาก ประวัติอีกด้านของไอน์สไตน์บอกว่า ดนตรีเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อตัวเขามากทีเดียว ไอน์สไตน์เริ่มเรียนดนตรีตั้งแต่เด็ก เริ่มด้วยเปียโน แล้วตามด้วยไวโอลินเมื่ออายุ 6 ขวบ แม่ของเขาจ้างครูมาสอนที่บ้าน ได้แก่ เปียโน ไวโอลิน และวิทยาศาสตร์ เขาเรียนอย่างมีความสุข เขาเล่นไวโอลินได้อย่างยอดเยี่ยม ชื่นชอบผลงานของโมซาร์ต บีโธเฟน และบาร์ค และมีเพื่อนเป็นนักดนตรีหลายคน เขากล่าวไว้ว่า“หากไม่ได้เป็นนักฟิสิกส์ ข้าพเจ้าอาจเป็นนักดนตรี ฝันกลางวันเป็นดนตรี ความสุขส่วนใหญ่ในชีวิต ล้วนมาจากดนตรี”ไอน์สไตน์ไม่ได้เก่งกาจเฉพาะวิทยาศาสตร์และดนตรี หลังประสบความสำเร็จในทฤษฎีสัมพันธภาพอันโด่งดัง จนได้รับรางวัลโนเบลใน ค.ศ.1921 ไอน์สไตน์เดินทางไปกล่าวสุนทรพจน์ในที่ต่างๆ และมีวาทะแหลมคมที่เราเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว เช่น “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” เป็นต้น แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยภาพอันหลากหลายทั้งอีคิวและไอคิวของไอน์สไตน์ทำไมดนตรีจึงสร้างอัจฉริยะได้ ดนตรีมีองค์ประกอบที่สมดุล สามารถกระตุ้นการทำงานของสมองได้ทั้งซีกซ้ายและซีกขวา สมองซีกซ้ายเป็นพื้นฐานของคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การอ่าน เขียน พูด การคิดวิเคราะห์ และการใช้เหตุผล สมองซีกขวาเป็นการเรียนรู้ด้านความรู้สึก จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะ และดนตรี เสียงดนตรีช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองซีกขวา ตัวโน้ต ทำนอง และจังหวะ กระตุ้นการทำงานของสมองซีกซ้าย การค้นคว้าทางฟิสิกส์มีผลวิจัยออกมาว่า “ดนตรีคลาสสิคมีผลต่อการทำงานของเซลล์สมองส่วนที่มีหน้าที่พัฒนาด้านมิติสัมพันธ์ เชื่อมโยงความคิดให้เข้ากับรูปทรงและสิ่งของต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์”ดนตรีที่เหมาะสมต่อพัฒนาการลูกน้อย ดนตรีมีหลายประเภท ที่เหมาะสมกับเด็กก็คือ ดนตรีที่มีจังหวะ ทำนอง และความกลมกลืนของเสียงอย่างมีลำดับ มีผลต่อการลำดับความคิดในสมองซึ่งสำคัญต่อการเรียนรู้ของเด็ก ระบบประสาทการรับฟังของเด็กในท้องเริ่มทำงานตั้งแต่อายุครรภ์ได้ 5 เดือน คลื่นเสียงที่มีโครงสร้างเหมาะสมจะกระตุ้นเครือข่ายสายใยประสาทเกี่ยวกับการได้ยินให้พัฒนาได้รวดเร็วขึ้นดนตรีคลาสสิคมีโครงสร้างที่เหมาะสมต่อพัฒนาการของเด็กมากที่สุด โดยเฉพาะดนตรีของโมซาร์ต อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกดนตรีแนวอื่น เช่น ดนตรีไทยเดิม ดนตรีป็อป ดนตรีแจ็ซ ให้ลูกฟังก็ได้ เมื่อลูกแสดงออกว่า ชื่นชอบเพลงแบบไหน จึงค่อยส่งเสริมไปตามแนวทางที่ลูกถนัดต่อไป ผลงานเพลงของโมซาร์ต มีผลต่อพัฒนาการด้านมิติสัมพันธ์ และจะคงอยู่ได้นานก็ต่อเมื่อมีการฝึกฝนในช่วงอายุ 3-7 ขวบ อย่างต่อเนื่อง 2 ปีขึ้นไป ได้แก่ การที่เด็กได้ร้องรำทำเพลง เล่นดนตรี และประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะจากการทดลองพบว่า “เด็กในวัยเรียนอายุต่ำกว่า 7 ปี ที่ฝึกเล่นดนตรีอย่างสม่ำเสมอ จะมีคะแนนความสามารถด้านความสัมพันธ์ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาดีกว่าเด็กที่ไม่ได้เล่นดนตรี” ดังนั้น การปั้นลูกน้อยสู่เส้นทางของอัจฉริยะ ดนตรีจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ มีบทบาทต่อการพัฒนาศักยภาพเป็นอย่างมาก การดูแลเอาใจใส่ รู้จักกระตุ้น และต่อยอดลูกน้อยด้วยดนตรีที่เหมาะสมกับเด็กเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่โดยตรง ดนตรีกับเด็ก ณ วันนี้ จึงเป็นมากกว่าเครื่องมือกล่อมเด็ก หรือกิจกรรมเสริมยามว่างของเด็ก ดังที่เคยเป็นมา รู้จักโมซาร์ต อัจฉริยะแห่งโลกดนตรี




วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมซาร์ต (Wolfgang Amadeus Mozart) เป็นชาวออสเตรีย มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. 1756-1791บิดาของโมซาร์ตเป็นนักดนตรีประจำสำนักของอาร์คบิชอปแห่งซาลสบวร์กและสอนดนตรีให้โมซาร์ตเมื่ออายุ 4 ขวบ โมซาร์ตฉายแววอัจฉริยะตั้งแต่เล็ก สามารถแต่งบทเพลงคลาสสิค เช่น ซิมโฟนี โซนาตา ได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และเรียนวิชาคณิตศาสตร์ได้ดี ด้วยเหตุนี้ บิดาจึงพาโมซาร์ตออกเดินทางไปแสดงดนตรียังราชสำนักต่างๆ ทั่วยุโรป จนมีชื่อเสียงในฐานะนักดนตรีอัจฉริยะเป็นอย่างมาก ในวัยหนุ่มโมซาร์ตย้ายมาใช้ชีวิตในกรุงเวียนนา และเสียชีวิตเมื่ออายุเพียง 30 กว่าปี ฝากผลงานการประพันธ์เพลงคลาสสิคไว้ถึง 600 กว่าชิ้น ว่ากันว่า เขาแต่งเพลงได้รวดเร็วดั่งสายน้ำราวกับว่า โน้ตเพลงที่ลงตัวเหล่านั้นสมบูรณ์แบบตั้งแต่อยู่ในหัวของเขาแล้ว
เมื่อนักวิทยาศาสตร์สนใจใคร่รู้ถึงอิทธิพลของดนตรีมีผลต่อการทำงานของสมองอย่างไร ก็ได้ทำการค้นคว้าวิจัยบทเพลงทั้งหมดของเขาและพบว่า บทเพลงเปียโน โซนาต้า ในบันไดเสียง D Major หมายเลข K 448 มีความสดใส ร่าเริง มีความซับซ้อนของดนตรีพอเหมาะพอดี โครงสร้างทุกอย่างของเพลงสมบูรณ์แบบ มีผลต่อการพัฒนาความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ของมนุษย์ และเรียกการค้นพบนี้ว่า“โมซาร์ตเอฟเฟค”

เคล็ดลับการใช้ดนตรีพัฒนาศักยภาพของลูก

ดนตรีหรือ Smart Symphonies เป็นปัจจัย 1 ใน 4 ของรหัสอัจฉริยะ Enfa Smart System แนวคิดในการพัฒนาศักยภาพสมองของลูกน้อยอย่างเต็มระบบ จากมี้ด จอห์นสัน ซึ่งประโยชน์ของการเสริมสร้างปัจจัยด้านดนตรีให้กับลูก ก็คือ สมองเด็กรู้สึกผ่อนคลาย พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ใหม่ๆ ได้ดี กล้ามเนื้อและประสาทไม่ตึงเครียด ทำให้อารมณ์ดี อีคิวดี หลับง่าย นอนนาน Growth Hormone หลั่งได้เต็มที่ ทำให้เด็กเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ เสริมสร้างจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ การเรียบเรียงความคิด ความจำได้มีประสิทธิภาพ ช่วยกระตุ้นการสร้างสายใยประสาทในสมอง พร้อมต่อการเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
มีพัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสารก้าวหน้า เนื่องจากเซลล์สมองสื่อสารกันได้ดี คุณพ่อคุณแม่สามารถนำดนตรีมาใช้พัฒนาศักยภาพของลูกได้ตั้งแต่อายุครรภ์ได้ 5 เดือน เพราะประสาทการรับฟังมีการพัฒนาขึ้นแล้ว จะเป็นดนตรีไทย ดนตรีสากล ดนตรีบรรเลง หรือดนตรีคลาสสิคก็ได้ ท่วงทำนองเบาๆ สบายๆ หรือสนุกสนาน ร่าเริง ขอแนะนำให้ใช้ดนตรีพัฒนาลูกให้เหมาะกับวัย ดังนี้ค่ะ ระยะตั้งครรภ์ เปิดเพลงให้ลูกฟัง เช้า-เย็น ครั้งละ 5 นาที ไม่เปิดเสียงดังจนเกินไป ตั้งลำโพงให้ห่างจากท้องประมาณ 1 ฟุต คุณพ่อคุณม่อาจร้องเพลงให้ลูกฟังบ้างก็ได้ ให้เปิดเพลงในช่วงที่เด็กตื่น สังเกตจากการดิ้นของลูก วัย 6 เดือน – 1 ขวบ
เปิดเพลงกล่อมลูกก่อนนอน เลือกเพลงเนื้อร้องสั้นๆ ง่ายๆ จังหวะคล้องจอง ให้ลูกมีส่วนร่วม เช่น ตบมือ ร้องด้วยกัน วัย 1 – 3 ขวบ เปิดเพลงในช่วงเช้าเมื่อลูกตื่น กระตุ้นการเรียนรู้ เปิดเพลงประกอบเมื่อลูกทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น อาบน้ำ เล่านิทาน พร้อมสอนคำศัพท์ไปด้วย วัย 2 – 3 ขวบ ชักจูงให้ลูกสนใจดนตรี ด้วยการให้เล่นเครื่องดนตรีจริง สำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ได้พาไปชมการแสดงดนตรีสำหรับเด็ก

Car Seat Safety for Infants and Children

One of the most important jobs you have as a parent is keeping your child safe when riding in a vehicle. Each year thousands of young children are killed or injured in car crashes. Proper use of car safety seats helps keep children safe. But with so many different car safety seats on the market it is hard to know what one to chose.
Car seats have manufacturer expiration dates. Dates can be as many as eight years and in some cases as little as five years. Parents should know that NHTSA instructs it's techs and both Safe Kids and the Juvenile Product Manufacturers Association agree that no seat should be used for more than a period of six years from its date of manufacture. Both experts and seat manufacturers agree that seats do have a finite lifespan. Best practice would be to retire that seat after six years. That is of course unless your car seat manufacturer states that its lifespan is five years. Always consult your seat markings, labels and manual for this information.
So why do car seats expire? Here are three reasons why they expire. •Car seat technology is always evolving, as are vehicles' ability to secure seats properly and consistently. Before 2002, Lower Anchor & Tethers for Children (LATCH) did not exist. Now it's a common system by which car seats are installed. The same is true of top tethers on car seats and tether anchors in cars. A skilled technician would never think to bypass tether usage if it is an option. This technology exists to make our children safer. •Materials wear out. Plastic stresses and warps. Straps and fabrics fray and rip. Instruction manuals get lost or destroyed. Important instructional labels fade, tear or fall off completely. •Your manufacturer may no longer stock replacement manuals and parts. Maybe the company has gone out of business entirely. The bottom line is this: Know how to check your car seat expiration date and vital information. Retire that old car seat and get a new one if necessary.
Ten Basic Rules for using car seats: •Kids 12 and under should ALWAYS ride in the back seat. This cuts their risk of death by 36 of deaths for children 0-15 were because the child was unrestrained. Many more were improperly restrained. Nationally, the misuse rate for child safety seats is over 80 in some areas. The good news is that correct use of car seats and boosters does save lives. Infant seats have been shown to reduce fatal injury by 71.
Make your child is safe by selecting the proper car seat, installing it properly and using it every time your child is traveling in your car or in someone else's car.
Marilyn Bohn's Bio Marilyn is a creative organizer who has been organizing for over 20 years. She is a member of the National Association of Professional Organizers and is working towards becoming a Certified Professional Organizer. Professionally she has been organizing homes and offices for over two years. She holds a bachelors degree in Social Work. She has reared five daughters and currently lives in Utah.
Go to her website http://www.marilynbohn.com where you can find free organizing tips and interesting blogs and helpful articles on organizing.

Tips For Giving The Best Baby Gifts

Whether you are attending a baby shower for the first time or have been to quite a few of them, choosing the best baby gifts may be a challenge for some. Since most baby shower attendees would like their baby gift to stand out from the rest, there are a few tips to keep in mind not only when shopping for these gifts but wrapping them as well. The following will provide some helpful hints on how to make your baby shower gift shine.
Choose a Registry Item Plus Something Which Is Not On the Registry
Although many expectant mothers would like to see their registry wishes met, there is still something to be said about the element of surprise. Therefore, when picking out a baby gift for the mother to be it is always a nice idea to choose an item from the registry and also buy another small gift which is not on the registry. This way the mother to be is getting the best of both worlds by receiving something which she knows about and something which she does not. This is especially true since the gift recipient can frequently look online prior to the shower to see which registry items have been purchased. By choosing another small item which is not on the registry the gift giver can surprise the mother to be with an unknown nicety.
The Gift Is In the Presentation As Well
Even though some gift givers may feel as if the baby gifts are the only things which are of importance, keep in mind that presentation adds to the gift as well. Try to take some time in wrapping the gifts nicely and adding sophisticated touches to the packaging such as pretty bows, artificial flowers or a baby rattle. This will certainly make your gift stand out from the rest and please the expectant mother as she will be able to tell that you took extra time and effort by making the gift look beautiful.
Great Gifts Do Not Have to Cost a Bundle
For those who are on a budget, which many of us are, finding great gifts which are economical in price is not only possible but highly likely. Some examples of economical gifts include baby teethers, rattles, onesies, bibs, burp cloths, washcloths and bath toys. These are not only relatively inexpensive items but they are ones which are extremely useful as well. This is not to say that the silver utensil set or hairbrush set is not a lovely gift but for those who are on a budget, finding a reasonably priced gift is quite easy to do. Try filling a pretty colored gift bag with different items listed above as this can be done while still sticking with your budget. There are so many different types of baby gifts within various price ranges that you are sure to have a wide selection to choose from which will delight the guest of honor at the baby shower.

Kids Birthday Party Games For The Little Fans Of Popular Characters!

This article is a continuation of the previous one in the series of covering and ideas for themed parties for kids.
If your little ones birthday is coming soon, a themed party is something that might interest you. These parties are very popular with young children. So if you plan one, here are few more birthday games ideas for different themes of birthday parties.
Rock Toss for a Bob the builder party
Rock toss can be played on the lines of the egg toss or balloon toss. Make some rocks using grey socks, and filling them with a handfull of beans, and seal the rocks with a rubber band.
Make pairs of kids and let each pair have a rock of their own.The game begins with two kids standing a foot away from one another, one kid holding the rock and when you say "toss" the child will toss their rock to the partner, who has to catch it.
If the partner catches the rock, the pair stays in the game. but if the partner drops it, the pair is out of the game. After every catch, the pair who are still in the game, have to take a step away from each other and continue tossing the rock.
The last pair remaining without dropping their rock, stays in the game.
Who is the Pony on my back? for a My Little Pony Party
You need My little pony stickers of all the my little pony characters for this game. Divide the kids in pairs or have a group of three if you have an odd number.
Place a different sticker on the back of each guest. Now each child then has a look at the pony on their partners back. Each child then has to guess the pony on their back by asking questions to their partner such as "Am I blue?", "Is my mane pink?"
Each pair wins prizes for guessing their ponies.
Guess the cars in the jar for a Cars birthday Party
You need to do a bit of preparation before the party for this game.
Prepare 3-4 glass jars with few small toy cars in them. Stick to a number less than 10 in each jar. Have different types of vehicles in each jar such as cars in one jar, jeeps in another, little buses in one.
Let the children sit in a circle and pass the jar around, and let each of them take a turn at guessing the cars in the jar
There are plenty of kids birthday party games which can be easily transformed into a themed party game.